สถาบันกวดวิชาคุณภาพยอดเยี่ยม แหล่งผลิตนักเรียนเตรียมทหาร สอบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ ทั้งรอบทฤษฎีและปฏิบัติ ในการสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่า

เว็บไซต์แนะนำ












หลักสูตรการเรียน-การสอน

 
การฝึกพลศึกษา
    โรงเรียนเตรียมทหารได้มอบหมายให้โรงเรียนนายร้อย 4 เหล่า ทำการสอบรอบ 2 สำหรับนักเรียนที่สอบได้รอบแรกโดยสอบพลศึกษา สัมภาษณ์ วิภาววิสัย และตรวจโรค
    สำหรับการสอบพลศึกษาเกณฑ์การให้คะแนนแต่ละสถานีแต่ละเหล่าอาจมีแตกต่างกันไปบ้างแต่ทุกเหล่าทำการสอบ 8 สถานีเช่นเดียวกันคือ ดึงข้อ ลุกนั่ง กระโดดไกล นั่งงอตัว วิ่งเก็บของ วิ่ง 50 เมตร วิ่ง 1,000 เมตร ว่ายน้ำ 50 เมตร แต่ละสถานีจะมีคะแนนแตกต่างกันออกไปเมื่อรวมคะแนนปฏิบัติแล้วจะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 60% ของคะแนนรวมทั้งหมด และสถานีที่มีผลได้-ตกคือว่ายน้ำ ถ้าไม่ผ่านถือว่าสอบตก และสถานีวิ่ง 1,000 เมตร ถ้าไม่ผ่านบางโรงเรียนถือว่าสอบตก เราจะทำการฝึกพลศึกษาทุกวันจันทร์-ศุกร์ ฝึกดึงข้อและลุกนั่ง วันเสาร์จะฝึกสถานีที่เหลือโดยจะมุ่งเป็นไปที่สกอร์แข่งเป็นหลัก
    นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งเตรียมสอบ รด.ในปีถัดไปจะทำการฝึกแยกเป็นพิเศษในสถานีวิ่ง โดยใช้ระยะทาง 800 เมตรและสถานีที่ยึดพื้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งพร้อมที่จะสอบผ่านเพื่อเรียน รด. เมื่อขึ้นชั้น ม.4


การเตรียมการสอบ สัมภาษณ์ วิภาววิสัยและตรวจโรค
    เราจะเตรียมตัวนักเรียนในการสอบสัมภาษณ์ โดยเน้นเรื่องปฎิภาณไหวพริบในการตอบคำถามของคณะกรรมการ การปฏิบัติตามคำสั่งใช้คำพูดฉะฉาน ฝึกลักษณะท่าทาง ความองอาจผึ่งผาย การเตรียมความพร้อมของร่างกาย ตัดผม ตัดเล็บ เสื้อผ้าต้องสะอาดเรียบร้อยรวมทั้งการฝึกนั่งทรงตัวซึ่งมีในการสอบสัมภาษณ์ด้วย
    เราจะมอบเอกสารแนะนำการสอบวิภาววิสัยเป็นการทดสอบสุขภาพจิต ความคิดอ่านของแต่ละคนว่าเป็นปกติหรือไม่ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนในการทำข้อสอบซึ่งเป็นการสอบแบบข้อเขียน และมีสอบทุกเหล่า
    นักเรียนทุกคนจะได้รับการตรวจวัดสายตาเป็นระยะๆ ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนถึงก่อนสอบ 2 เดือน เพื่อประเมินคุณภาพสายตาและแก้ไขให้ทันเวลาแต่เนิ่นๆ เราจะทำการตรวจตาบอดสีให้กับทุกคนเพื่อจะได้รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้น ตรวจสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายเป็นปกติหรือไม่ให้นักเรียนพบทันตแพทย์ กรณีมีปัญหาเรื่องฟัน สอบถามเรื่องโรคประจำตัวอันขัดต่อการรับราชการทหาร
 ทั้งหมดนี้เป็นการสอบรอบ 2 มีผลได้-ตกในการสอบและบางเหล่าอาจมีคะแนนนำไปรวมกับภาควิชาการและพลศึกษาด้วย